นิทาน เรื่อง “กระต่ายกับแครอท”
นิทาน เรื่อง “กระต่ายกับแครอท”
เราคงจะเคยได้ยินนิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า มานานแล้ว สอนให้เรารู้ว่า “อย่าประมาท”เพราะในนิทานกระต่ายชะล่าใจคิดว่า ตัวเองวิ่งเร็ว และเก่งกว่าจึงแอบเอนใต้ต้นไม้ เพื่อพักผ่อนสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ แก่เต่าที่ มุ่งมั่น อดทน จนชนะเจ้ากระต่าย เข้าเส้นชัย
“เก่งไม่กลัว กลัวสม่ำเสมอ” ถ้าเราเข้าใจความหมายนี้เราจะไม่หยุดการลงมือทำ แต่ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญในการทำธุรกิจเป็นอันดับแรก คือตัวเราต้องเข้าใจจิตวิทยาของคนว่า..เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไรหรืออื่นๆที่เป็นพฤติกรรมของคน แล้วค่อยเอาไปทำการตลาด
วันนี้ผมมีนิทานเรื่อง กระต่ายกับแครอท มาเล่าให้ฟังเพื่อให้เราทุกคนเห็นภาพและเข้าใจมากยิ่งขึ้น.
มีกระต่ายตัวหนึ่งอยากจะตกปลามันจึงเตรียมคันเบ็ดและเหยื่อ ไปที่ริมบึงซึ่งมีปลาชุกชุมมากมันคิดว่า.. ปลาเยอะขนาดนี้ ยังไงก็ต้องได้ติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
ในวันแรก เจ้ากระต่ายก็หย่อนเหยื่อลงไป และนั่งรอเพื่อให้ปลามากินเหยื่อ ไม่มีปลาซักตัวว่ายเข้ามาใกล้คันเบ็ดเลย จนกระทั่งค่ำ มันก็ไม่ได้ปลา จึงถือคันเบ็ดกลับไป
เช้าวันที่สอง เจ้ากระต่ายก็ถือคันเบ็ดหย่อนลงไปในบึงอีก รอจนเย็นก็ไม่มีปลามากินเหยื่อซักทีมันก็ได้แต่เดินคอตกกลับไป
เช้าวันที่สาม เจ้ากระต่ายก็ไม่ยอมแพ้ มันยังคงเดินไปริมบึง พร้อมหย่อนคันเบ็ดลงไป แต่ทันใดนั้น ก็มีปลาตัวหนึ่ง กระโดดขึ้นมาเหนือน้ำ พร้อมกับใช้หาง ตบหน้า เจ้ากระต่าย..!! แล้วพูดว่า “ถ้าเจ้ายังเอา “แครอท” มาเป็นเหยื่อตกปลาเจ้าจะไม่มีวันได้ปลาเลย รู้ไหม!! แล้วปลาก็ผลุบหายไป..
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า “อย่าคิดว่า สิ่งที่เราชอบ คนอื่นจะชอบเหมือนเราเสมอไป” การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ต้องรู้จักลูกค้าว่า เขามีความต้องการอะไร อย่างไร ชอบ หรือ ไม่ชอบ แบบไหน เราก็สามารถผลิตหรือขายสินค้า ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเราได้ ที่สำคัญ การวางกลยุทธ์เจาะเข้าหาลูกค้า ควรกำหนดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน อย่าหว่านกว้างๆ เช่น สินค้านี้ขายหรือผลิต เพื่อผู้หญิง ให้ระบุไปเลยว่า ผู้หญิงแบบไหน สาวห้าว หวาน เปรี้ยว อายุเท่าไหร่ อาชีพอะไร ทำงานอิสระ หรือ งานประจำ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือข้อมูลที่จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
อย่าลืมนะครับว่า.. ลูกค้าไม่ได้คิดหรือชอบเหมือนเราหมดทุกคน ถ้าอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ ผลิตหรือขายสินค้าต้องตอบโจทย์ กลุ่มลูกค้าให้ได้ อย่าเอาแครอทไปตกปลาเลย มันไม่กินหรอก 555+…